อยากรวย ต้องใช้เทคนิคของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล เขาเริ่มลงทุนในหุ้นเมื่ออายุ 10 ขวบ และเป็นเศรษฐีเมื่ออายุ 30 ต้นๆ เขาเริ่มซื้อหุ้น Berkshire Hathaway ในราคา 7.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น วันนี้ Berkshire ซื้อขายที่ประมาณ 400,000 ดอลลาร์ และบัฟเฟตต์มีมูลค่าสุทธิ 97 พันล้านดอลลาร์ 

บัฟเฟตต์เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องแนวทางการซื้อบริษัทบลูชิป เมื่อถูกประเมินมูลค่าต่ำเกินไปแต่บริษัทนั้นๆ มีการบริหารจัดการที่ดี จากนั้นเขาก็ถือหุ้นเหล่านั้นแบบระยะยาว เขากล่าวว่าเคล็ดลับของความสำเร็จของเขาคือการปฏิบัติตามกฎสองข้อ:  กฎข้อที่ 1: อย่าเสียเงิน กฎข้อที่ 2: อย่าลืมกฎข้อที่ 1” 

แต่เทคติคสำคัญที่น้อยคนจะรู้คือ

1. Selling put options

บัฟเฟตต์ลงทุนทั้งหุ้นและอนุพันธ์ ในรายงานประจำปี 2007 ของ Berkshire Hathaway บริษัทมีสัญญาอนุพันธ์ 94 ฉบับ ซึ่งในแต่ละปีสร้างรายได้ 7.7 พันล้านดอลลาร์จากค่าพรีเมี่ยมที่ได้รับ กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการขายออปชั่นที่คุณสัญญาว่าจะซื้อหุ้นที่ราคาใช้สิทธิเฉพาะที่ต่ำกว่ามูลค่าปัจจุบันในอนาคต ซึ่งจะทำให้คุณได้รับเงินจากการขายออปชั่นทันที ถ้าราคาหุ้นไม่ตกไปถึงจุดนั้น หากราคาต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ คุณซื้อหุ้นในราคาที่น้อยกว่าที่คุณจะจ่ายเมื่อคุณขายออปชั่น โดยเงินสดจากการขายออปชั่นจะช่วยลดต้นทุนของคุณลงอีก นี่เป็นกลยุทธ์ที่ดีในหุ้นที่คุณไม่คิดจะเป็นเจ้าของตั้งแต่แรก ในปี 1993 บัฟเฟตต์ใช้ออปชั่นเพื่อสร้างรายได้เกือบ 7.5 ล้านดอลลาร์

ในขณะที่รอให้ราคาหุ้นโคคา-โคลาลดลง แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าสิ่งนี้มีความเสี่ยง นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ควรลองด้วยตัวเอง

2. ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก

ถ้าคุณใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับหุ้นกลุ่มเติบโต แต่มันก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดี หุ้นขนาดเล็กอาจจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่า บัฟเฟตต์เริ่มต้นอาชีพด้วยการลงทุนในบริษัทขนาดเล็กเป็นหลัก เขาลงทุนมากกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าสุทธิของเขาใน GEICO ตอนที่ยังเป็นบริษัทขนาดเล็กอยู่ ในปี 1951 ตอนที่เขาอายุได้ 20 ปี หุ้นขนาดเล็กแสดงให้เห็นถึงการเติบโตสูงสุดในช่วงแรกๆ ของการดำเนินงานของบริษัท วิธีนี้คุณเองก็สามารถทำตามได้

3. ตัดขาดทุนเมื่อจำเป็น

วิธีการ “ซื้อและถือ” ของบัฟเฟตต์ ไม่ได้เป็นการถือตลอดไป เมื่อเกิดความผิดพลาดในบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี นั่นเป็นสัญญาณว่าธุรกิจนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างไปในทางที่จะสร้างความสูญเสียไปอีกนาน สำหรับบัฟเฟตต์ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเขาเมื่อเร็วๆ นี้คือการลงทุนในบริษัทสายการบิน Berkshire Hathaway เขาเคยถือหุ้นในสายการบินหลักของอเมริกาทั้ง 4 สายการบิน ได้แก่ Delta, American Airlines, Southwest และ United แม้ว่าเขาจะเพิ่มบริษัทเหล่านี้ในบัญชีรายชื่อของเขาในปี 2016 เท่านั้น แต่ภายในสิ้นปี 2020 เขาได้ทิ้งบริษัทเหล่านี้ทั้งหมด นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของพอร์ตการลงทุน บัฟเฟตต์รับผิดชอบต่อกลยุทธ์ที่ล้มเหลว เขาไม่เห็นอนาคตของธุรกิจสายการบิน

เราจะไม่ลงทุนในบริษัทที่เราคิดว่าจะกินเงินเราในอนาคต” เขากล่าวไว้เมื่อตอนนั้น

***ออปชั่นส์ของตลาดสหรัฐ เป็นออปชั่นส์ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก และมีหุ้นให้เลือกหลากหลายครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม